รีวิว Honda city Turbo

หลังจากเปิดตัวมาได้ระยะนึงแต่ความเเรงก็คงยังไม่ตกหลายคนยังพูดถึงพร้อมการเปลี่ยนเทียบกับหลายรุ่น ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จะมีดีอะไรเราต้องทดสอบให้รู้จริง

 


ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ยอดขายส่วนใหญ่อยู่ในรุ่นท๊อป และซึ่งหลายคนบ่นว่าแพงกว่าคู่แข่ง แต่ด้วยยอดขายที่เห็นได้ชัดว่า มาดีเหนือคู่แข่ง ก็คงอยากรู้ว่าเพราะอะไร  ทำไมซิตี้ถึงขายดี ทางทีมงาน ออโต้สปริน ก็ได้จัดทดสอบอีกครั้ง กับการใช้งานอีกครั้งแบบอยู่กันยาวๆทำให้ได้เห็นหรือรู้ถึงประสิทธิภาพการใช้งานจริงๆของรถ

ทีมงานจึงได้หยิบยืมรถทดสอบจาก ฮอนด้า ประเทศไทย เพื่อให้สัมผัสกับ ซิตี้ แบบยาวๆ เป็นที่รู้กันดีว่า คู่แข่งโดยตรงคือ นิสสัน อัมเมร่า ซึ่งเป็นรถที่ออกมาเรียกว่าพร้อมๆกันเลย แถมเครื่องยนต์ก็เป็น 1.0 ลิตร Turbo เช่นเดียวกัน

 

ฮอนด้า ซิตี้ มีพื้นฐานมาจาก City car

ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ พื้นฐานมาจากรถในกลุ่ม City car แต่ในรุ่นใหม่นี้เปลี่ยนเป็นรถในกลุ่ม Eco car ด้วยการที่เข้าหลักเกณฑ์ รถอีโคคาร์เพส2 ทำให้ตัวรถที่มีการพัฒนาจากรุ่นเดิมจึงทำให้มีการปรับปรุ่งที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนด้วยพื้นฐานรถที่มีขนาดใหญ่อยู่แล้วจึงง่ายต่อการต่อยอด สิ่งสำคัญอีกอย่าง สำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ คือ จากเครื่องยนต์ที่มีขนาด 1.5 ลิตรแต่ถูกปรับมาเป็น 1.0 ลิตร จริงแต่กลับให้ ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องอัตราเร่งและการประหยัดน้ำมัน

 

ภายนอก Honda city Turbo

หน้าตาภายนอกสำหรับ ซิตี้ ถ้าเทียบกับรุ่นเดิม หน้าตารุ่นเดิมจะดูสมส่วนกว่า ในรุ่นใหม่ดูมีความทันสมัยมากกว่าแต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน การออกแบบใหม่ทั้งหมดเน้นเส้นสายตั้งแต่ไฟหน้ารถ ยาวมาตามด้านข้างตัวรถถึงไฟท้าย ให้ดูดีความลงตัวมากขึ้น

โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว เพิ่มความพิเศษกับรุ่นใหม่อย่าง RS ที่ตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจอีกขั้น ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

 


ภายในห้องมีความโดดเด่นกับความกว้างขวาง เบาะนั่งให้ความรู้สึกเหมือนรถสปอร์ต อุปกรณ์ต่างๆที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมนั้นดีกว่ามาก วัสดุที่ใช้ถือว่าดีขึ้นมากผิวสัมผัสดี การวางตำแหน่งของปุ่มต่างๆทำได้ดีใช้งานง่าย สีภายในดำเน้นความสปอร์ตดูแลรักษาง่าย และสิ่งสำคัญกับสาวก ฮอนด้า การเดินด้ายสีแดงรอบคันตั้งแต่พวงมาลัย  เบาะนั่ง แพงประตู เรียกว่าถูกใจสายสิ่งแน่นอน

 

เครื่องยนต์ Honda city Turbo

จุดที่ใครๆก็ให้ความสำคัญ คือ ขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที

ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยขุมพลังเทอร์โบใหม่นี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

ความพิเศษอีกอย่างสำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้คือ จะทำการแจ้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่หน้าปัดแทนการ เปลี่ยนตามรอบด้วยเทคโนโลยีใหม่ด้วยเครื่องสามารถตรวจจับได้ว่าประสิทธิภาพน้ำมันเครื่ยงแย่ลงหรือถึงรอบที่จะต้องเปลี่ยน ถือเป็นอีกหนึ่งความทันสมัย

 

การทดสอบ Honda city Turbo

การเก็บเสียงเมื่อต้องวิ่งเร็วก็ทำได้เป็นอย่างดี ระบบเชื่อมต่อความบันเทิงต่างๆ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้นใช้งานได้ง่าย ส่วนเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองตัวเลยออกจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะรถขับสนุกเกิน เหมือนจะวิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเบาเท้าหน่อยคิดว่าตัวเลขน่าจะประหยัดได้พอสมควร

 

 

ระบบความปลอดภัย Honda city 2020

  • ระบบG-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
  • กล้อง ส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
  • นวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เจเนอเรชันล่าสุด


สรุป สำหรับการทดสอบ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ กับการใช้งานจริงไม่แปลกใจสำหรับคนที่ยอมจ่ายเพื่อให้ได้ตัวท๊อปสำหรับ ซิตี้ ชื่อที่บอกความเป็นตัวตน เพราะคุณจะได้ขับขี่รถที่ให้ความรู้สึกมากกว่า อีโคคาร์  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ที่ให้มากว่า สมถรรนะจะเป็นด้านเครื่องยนต์หรือช่วงล่างที่ดี สามารถเทียบเท่า รถในกลุ่มc-segment ก็ว่าได้ จึงทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายทุกครั้งเมื่อขับขี่ ดังนั้น คนที่ซื้อย่อมถูกใจในสิ่งต่างๆ เหล่านี้

ขอบคุณข้อมูล www.autospinn.com